หนังสือพิมพ์ นิตยสาร วารสารสำหรับสังคมคนทำงานที่ดีที่สุด
สนใจติตต่อลงโฆษณา โทร. 094-554-6226
อีเมลล์ : workingsociety@hotmail.com

Main Menu


 

สถิติเว็บไซต์

 สถิติวันนี้ 35 คน
 สถิติเมื่อวาน 34 คน
 สถิติเดือนนี้
สถิติปีนี้
สถิติทั้งหมด
398 คน
9675 คน
246345 คน
เริ่มเมื่อ 2010-06-28

Working Time

จินตนา  สำเร็จผล
กับความสำเร็จในวันนี้ที่มั่นคง

          “หากจะเปรียบชีวิตคนเราแล้ว ไม่มีวันไหนสำคัญไปกว่าวันนี้...วันที่เราสามารถยืนหยัดได้อย่างมั่นคง...ด้วยตัวเอง”
           จินตนา สำเร็จผล นักธุรกิจหญิงที่บ่งบอกถึงคำกล่าวที่ว่านี้ได้อย่างเด่นชัด เธอบริหารเวลาดูแล 3 กิจการได้ไม่มีบกพร่อง
          “เริ่มจากงานแรกเป็นงานเกี่ยวกับส่งออกเป็นงานด้านพวกระบบsafety ทั้งหมด เกี่ยวกับไฟฟ้า หมวกนิรภัย เข็มขัดนิรภัย ถุงมือและเข็มขัดค่ะ งานต่อมาเกี่ยวกับsecurity ก็พวกรักษาความปลอดภัยนะคะ และงานสุดท้ายที่เพิ่งลงมาจับเป็นงานเกี่ยวกับเรื่องสุขภาพ ความสวยความงาม
          การบริหารเวลาในแต่ละวันนะคะก็จะเคลียร์งานให้เสร็จ อย่างช่วงเช้าจะทำงานของพวกการรักษาความปลอดภัยหรือ รปภ.นั่นเองค่ะ งานที่เร่งด่วนจะจัดให้พนักงานของเราที่มีลงไปทำแทน มีพนักงานตอนนี้อยู่ 160 คนค่ะ ส่วนในเรื่องงานที่เกี่ยวกับสุขภาพ ความสวยความงาม เราก็ทำได้ตลอดเวลา แต่ถ้าวันไหนมีลูกค้าที่จะต้องนัดไปพูดคุยกันเราก็จะจัดสรรเวลาให้ตามที่ลูกค้าสะดวกค่ะ”
          เทคนิคพิเศษเฉพาะตัวที่เธอใช้บริหารงานตลอดมา จนเดินทางมาสู่ความสำเร็จในวันนี้ หนีไม่พ้น นั่นคือ ความใส่ใจและความจริงใจ
          “การดูแลกิจการที่เราทำมานั้น จะใช้ความใส่ใจในการทำงาน และความจริงใจ ไม่หนีปัญหาที่จะต้องแก้ไขและต้องคอยปรับปรุงอยู่ตลอดเวลา ที่สำคัญต้องเข้าถึงลูกค้า ต้องเอาใจใส่ความรู้สึกลูกค้า  และต้องเอาใจใส่ความรู้สึกของพนักงานเราเองด้วย
          อย่างงานsafety เราต้องใส่ใจลูกค้าเรา ส่งออกไปแล้วต้องมีการตรวจเช็คอย่างดีให้ได้มาตรฐานจริง ๆ เราต้องตรวจสอบมาถึงการทำงานของพนักงานเราที่เป็นฝ่ายผลิตสินค้าว่าได้ตรวจสอบสินค้าดีและถูกต้องหรือยัง  อย่างงานsecurity เราใส่ใจลูกค้า เรารับงานมาแล้วทุกเดือนต้องประเมิน มีโอกาสเราก็ต้องไปพบลูกค้าเอง คุยกับลูกค้าว่าพนักงานเราเป็นอย่างไร มีอะไรต้องแก้ไขปรับปรุงหรือเปล่า  เราต้องจดจำให้แม่นว่างานแต่ละหน่วยงานที่มีพนักงานไปลงตามต้องการของลูกค้าจะแตกต่างกัน  เราจะต้องจำให้ได้ว่าแต่ละที่ระบบงานเขาเป็นยังไง เวลาเราส่งพนักงานไปต้องผ่านการอบรมของแต่ละที่ไป”
 
          ปัญหาที่พบในการทำงานในงาน 3 แบบนั่นก็แตกต่างกันไป แต่ก็สามารถสอบผ่านไปได้ทุกครั้ง
         “งานที่เกี่ยวกับการส่งออก เวลาบ้านเมืองมีปัญหา ทุกอย่างจะมีการเช็คสถานการณ์ มีฝ่ายการตลอด เช็คดูว่าจะส่งออกได้ในช่วงเวลาไหน ถ้ามีปัญหา การตลาดจะเร่งทำการส่งออกเพื่อไม่ให้สินค้าค้างอยู่
         ส่วนงานรักษาความปลอดภัย จะมีปัญหาด้านตัวบุคลากร คือตัว รปภ. ค่อนข้างจะต้องเอาใจใส่เขา เพราะปัญหาที่เจอในแต่ละที่ที่เราจัดส่งพนักงานไปจะคล้ายๆ กัน คือจะมีปัญหาตรงที่พนักงานดื่มสุราบ้าง แล้วก็ไม่ค่อยรับผิดชอบด้านเวลาในการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งในเรื่องนี้บริษัทเราที่ทำงานกันอยู่ก็เหมือนทำในระบบครอบครัวมากกว่า ไม่ใช้กฎเกณฑ์กับเขามากเกินไป แต่ใช้วิธีพูดคุยกันเหมือนพี่น้อง ให้มีการปรับปรุงแก้ไข พนักงานที่อยู่กับเราจะเป็นพนักงานที่อยู่กันมานาน จะไม่ค่อยมีออกกันไป
         ซึ่งพนักงานรักษาความปลอดภัยพวกนี้จะมีรายได้ไม่ค่อยดี บางคนมีครอบครัว ลูกต้องเรียน บางคนสามีทำงานคนเดียว ค่าเทอมอะไรบ้าง  เราต้องให้ความช่วยเหลือเขา พอเขาเดือดร้อนมาเราก็ช่วย เมื่อเราช่วยเหลือเขา ก็เกิดเป็นความผูกพัน พอเวลามีปัญหาปุ๊บจะพูดคุยกับเขา เขารู้ว่าเราช่วย เขาจะรู้ถึงความจริงใจของเรา ที่สำคัญเราต้องไม่เอาเปรียบเขาเกี่ยวกับเรื่องการเงินหรือสวัสดิการที่เขาสมควรจะต้องได้รับ”
         การติดตามการทำงานของผู้ใต้บังคับบัญชาก็มีความจำเป็นไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าเรื่องที่ผ่านมา
         “เราจะใช้แบบสอบถาม ทุก ๆ 3 เดือน เรามีแบบสอบถามให้กับลูกค้า  ในเรื่องการให้การบริการ พนักงาน รับฟังข้อเสนอแนะ รวมถึงการบริการที่ต้องการให้เราปรับปรุงแก้ไข หรือพนักงานยังขาดคุณสมบัติอะไรบ้าง  คือให้ผู้ว่าจ้างกรอกแบบสอบถามแล้วส่งมา เราจะได้รู้ว่าตรงไหนที่ที่เราต้องปรับปรุง ที่ยังเป็นข้อด้อยของเรา จะนำตัวนี้มา แล้วจะมีผลตามมาว่าลูกค้ามองว่าบริษัทเราไม่ได้ทอดทิ้งเขา ไม่ใช่รับงานมาแล้วไม่ใส่ใจ เมื่อมีผลมาอย่างไรเราต้องปรับปรุงอย่างเร็ว ไม่ใช่ตอบกลับมาแล้ว เรายังนิ่งเฉย “
         การทำงานอย่างหนักในความเหนื่อยและเมื่อยล้าย่อมเกิดขึ้นเป็นธรรมดา   แต่เธอก็ไม่ได้เครียดกับงานจนมากเกินไป เพราะเธอมีวิธีคลายเครียดที่น่าสนใจ
         “ปกติก็ไม่ได้เป็นคนที่ซีเรียสมากนัก นิสัยส่วนตัวเป็นคนที่มองอะไรแบบสวยงาม การทำงานกับลูกน้องจะไม่มีสีหน้าบึ้งตึง ถึงเจอกับปัญหาที่หนัก แต่ใบหน้าเรายิ้มแย้ม ไม่ให้ลูกน้องเราหรือคนใกล้ชิดเครียดไปกับเรา บางทีอยู่บ้านเราก็ออกกำลังกายคลายเครียดได้ ใช้วิธีวิ่ง ที่บ้านมีเครื่องวิ่ง เราก็คุยกับคนในบ้านแล้วก็วิ่งไปด้วย ทำได้ทั้งสองอย่างพร้อมกันเลยค่ะ
         กำลังใจของคนในครอบครัวเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้เราผ่านพ้นความเครียดไปได้  ถือว่าเราโชคดีที่คนในครอบครัวจะไม่พูดถึงเรื่องที่เรากำลังมีปัญหาอยู่  พวกเขาจะช่วยพูดคอยให้กำลังใจ ว่าปัญหาที่เราเจอเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย ตรงนี้ทำให้เราไม่เครียด  บางครั้งการตัดสินใจผิดพลาด ทำงานพลาด คนในครอบครัวจะไม่ว่าผิดหมด จะบอกว่าผิดก็ค่อย ๆ แก้
         ทึ่สำคัญสมาธิเราต้องดี บางทีมีปัญหาหนักเครียด สมองเราจะระเบิด แต่สิ่งหนึ่งที่ทำไม่เคยขาด คือการไหว้พระสวดมนต์ พอเราเข้าไปนั่งไหว้พระจนเสร็จ  เรามีความรู้สึกว่าสมองเราปลอดโปร่ง ทำให้เราคิดออก คิดได้  แก้ไขได้ พอสมาธิดี สุขภาพจิตดี อะไรก็จะวิ่งมา สิ่งที่ท้อที่สุดเราเจอจนเราไม่อยากทำงาน พอเรามาไหว้พระ   เราจะคิดออก จะมีหนทางที่ตามมา “
          ความสำเร็จในวันนี้ที่มั่นคงของ จินตนา สำเร็จผล จะเกิดขึ้นมิได้ ถ้าปราศจากความเก่งและความตั้งใจจริง  แต่ที่เธอมิเคยลืมคือลูกค้าและผู้บริหารพร้อมทั้งพนักงานทุกคนที่ทำให้เธอมีวันนี้ ซึ่งเธออยากจะฝากบอกกับผู้บริหารทุกคนว่า
          “ตัวเราทำธุรกิจไม่มีทางเก่ง จะไม่มีวันรู้ตัวเองว่าถูกต้องหรือทำสำเร็จ หรือผิดพลาด ถ้าไม่มีกระจกเงา นั่นคือลูกค้าและผู้บริหารของเรา  เราต้องไม่ปิดกั้น ต้องเปิดใจยอมรับผู้ใต้บังคับบัญชา และลูกค้าทุกคน เราต้องมานั่งคิดว่าต้องแก้ไขปรับปรุงสิ่งใดบ้าง ต้องเปิดใจให้กว้าง ที่สำคัญต้องไม่ท้อ ต้องมีจุดมุ่งหมาย ต้องมุ่งไปข้างหน้า ต้องทุ่มเทแรงให้เต็มที่ จุดมุ่งหมายรออยู่ ทำอย่างไรที่จะไปถึงให้ได้”
         ให้แง่คิดที่เป็นประโยชน์ต่อผู้บริหารได้ดีทีเดียว                
 

 


 

Copyright (c) 2006 by workingsociety.com