Working Man
สมหมาย ทับเวช เป้าหมาย คือ ความก้าวหน้า อุปสรรค คือ บททดสอบ
สมหมาย ทับเวช รองผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทย เป็นลูกหม้อของการรถไฟแห่งประเทศไทยก็ว่าได้ เริ่มเติบโตมาตั้งแต่จบวิศวกรรมรถไฟรุ่นที่ 27 ซึ่งคนส่วนใหญ่ในวงการรถไฟให้คำนิยามว่า วิศวกรรมรถไฟ เป็นใหญ่เป็นโตไม่ได้ แต่เขาได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าไม่จริง ตลอดระยะเวลาการทำงานนับถึงปัจจุบัน 41 ปีแล้ว ไฟในการทำงานก็ยังลุกโชนร้อนแรงไม่มีวันสิ้นสุด ซึ่งกว่าจะถึงวันนี้...วันที่ สมหมาย ทับเวช วิ่งเข้าสู่เส้นชัยได้สำเร็จ เขาต้องผ่านปัญหาและอุปสรรคนานัปการ ซึ่งล้วนเป็นเครื่องทดสอบจิตใจ และความเข้มแข็ง หากเขาล้าและย่อท้อต่ออุปสรรค ตกลงถอดใจเสียก่อน ความเจริญก้าวหน้าที่เขาได้รับในวันนี้คงจะมาไม่ถึงอย่างแน่นอน ตลอดชีวิตการทำงานเขาพบกับปัญหามากมาย แต่ทุกครั้งก็ตอบปัญหาได้เสมอ การทำงานไม่ว่าแห่งหนใด ต้องมีปัญหาให้มานั่งขบคิด หาวิธีแก้ไข และป้องกันมิให้เกิดขึ้นอีก หากเราย่อท้อต่อบทพิสูจน์ เชื่อว่าคนทุกคนไม่อาจบรรลุถึงเป้าหมายปลายทางที่ตั้งไว้ได้ ความเข้าใจปัญหา และทำให้เป็นเรื่องสนุกที่จะต้องผ่านพ้นกับอุปสรรค หลักการทำงานของเขา เป็นเทคนิคพิเศษเฉพาะตัวที่เขาสามารถจัดการกับการบริหารงานได้อย่างดีเยี่ยม เรามีความจริงใจกับลูกน้องให้ความเป็นกันเอง ผมทำงานเป็นทีม การบริหารจัดการใด ๆ หากทำงานกันเป็นทีมแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างจะราบรื่น สำเร็จลุล่วงลงด้วยดี และโดยเร็ว ยิ่งถ้าเราสามารถหาทีมงานที่ดีมาร่วมทำงานได้ด้วยแล้ว จะทำให้การบริหารจัดการเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ราบรื่น เพราะไม่สามารถทำงานตามลำพังด้วยตัวคนเดียว สิ่งนี้ถือว่าเป็นหัวใจหลักที่ผมยึดถือมาตลอดเวลาในการทำงาน มีความจริงใจให้ความเอื้ออาทรต่อกัน ไม่เคยทิ้งลูกน้อง มีแต่การให้อย่างเดียว เนื่องจากการรถไฟแห่งประเทศไทย เป็นหน่วยงานใหญ่ มีผู้ปฏิบัติงานอยู่เป็นจำนวนมาก หากจะครองใจคน ต้องมีความจริงใจต่อเขา หากว่าไม่มีความจริงใจต่อกัน จะไม่ได้รับความร่วมมือในคนหมู่มาก ดังนั้นผมจึงยึดถือหลักว่า ความจริงใจที่เรามีต่อกัน จะทำให้มีความไว้วางใจต่อกัน และทำให้ครองใจในคนหมู่มาก ผมอุทิศเวลาให้กับการรถไฟจริง ๆ ตั้งแต่หนุ่มจนแก่ มีความจริงใจกับการทำงาน กับผู้ใต้บังคับบัญชา มีความจริงใจต่อลูกน้อง ต่อเจ้านาย ทุ่มเทเวลาให้กับงานจริง ๆ สำคัญผมไม่โกง พ่อแม่สอนว่าต้องไม่โกง อย่าโกง กล้าทำด้วยต้องไม่โกง การรถไฟแห่งประเทศไทยจะต้องเดินหน้า ต้องกล้าคิดกล้าทำ คิดเร็ว ทำเร็ว ต้องไม่ทุจริต การทำงานของเขาเป็นไปตามที่ตั้งใจและตรงตามเป้าหมาย ด้วยหลักการที่เขายึดถือมาช้านาน ผมทำงานต่าง ๆ จะต้องมีเป้าหมายที่ชัดเจน และเป็นไปตามลำดับการทำงานที่ทุกคนต้องทำได้ หากตั้งเป้าไว้สูงเกินไปจะทำให้ขับเคลื่อนได้ยากกว่า และอาจทำให้ย่อท้อได้ เป้าหมายที่ผมตั้งไว้ส่วนใหญ่จะเป็นไปตามลำดับชั้น หรือstep by step จะไม่รวบรัดให้ทำงานงานใหญ่ จนละเลยเป้าหมายเล็ก ๆ และที่สำคัญเป้าหมายนั้น ต้องเป็นประโยชน์ต่อองค์กร ที่คนหมู่มากอยากร่วมมือในการทำงานด้วยเช่นกัน ผมคิดว่าการมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีนั้น สำหรับผมถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ และปฏิบัติมาโดยตลอด วิธีการคิดง่าย ๆ คือ ทำอย่างไรให้คนอยากเดินเข้ามาคุยกับเราด้วยความเป็นมิตร และเป็นกันเอง ซึ่งขึ้นอยู่กับการวางตนของเรา จะต้องมีความเป็นมิตร มีเมตตาต่อผู้ร่วมงาน รวมถึงลูกน้องผู้อยู่ใต้บังคับบัญชา โดยยึดหลักพรหมวิหาร 4 มาใช้ด้วย และสุดท้ายต้องเป็นผู้มองการณ์ไกลได้นั้น จะต้องศึกษาหาความรู้ในด้านต่าง ๆ เพื่อนำมาเป็นฐานข้อมูลในการตัดสินใจ ทั้งแผนระยะสั้น ระยะยาว นอกจากนี้ประสบการณ์ที่ยาวนาน ก็จะมีส่วนช่วยในการตัดสินใจด้วยเช่นกัน ด้วยเวลาที่ยาวนาน สมหมาย ทับเวช สร้างชื่อสร้างเสียงให้กับวงศ์ตระกูล ครอบครัว และการรถไฟแห่งประเทศไทย มามิได้ขาด การสร้างสมบารมีผมสร้างมาเป็น 20 ปี ผมมามือเปล่า ไม่มีต้นทุนอะไรเลย ผมสามารถทำงานให้กับการรถไฟแห่งประเทศไทยได้ จากแถวหลังสุดมาอยู่แถวหน้าได้ ทำงานได้ทุกอย่างไม่เคยเลือก จะย้ายไปที่ไหนก็ได้ กว่าชีวิตของผมจะมาถึงตรงนี้ ชีวิตผมมีแต่การให้ ให้โดยไม่หวังผลตอบแทน ความสำเร็จที่ผมได้รับในวันนี้ เป็นเพราะผมมีบุคคลที่ดีกับผมครับ จะเรียกว่าความสำเร็จ 5 ประการก็ว่าได้ คือมี แม่ดี แม่สอนให้ลูกขยัน ไม่โกง ผมมีเมียดี เมียอยู่เคียงข้างตลอด ลูกดี ลูกไม่เกเร ลูกน้องดี ทุกคนช่วยผมหมด สุดท้ายคือนายดี ผมมีนายดี นายส่งเสริม ด้วยความรักใคร่ที่ทุกคนมีให้เขาตลอดมา ไม่ว่าจะเป็นบุพการี คู่ชีวิต บุตร-ธิดา ผู้ใต้บังคับบัญชา และผู้บังคับบัญชา ทั้งหมดคือพลังผลักดันความสำเร็จมาสู่เขาโดยไม่ยากนัก ผมเติบโตมาจากตำแหน่งเล็ก ๆ ไต่เต้ามาเรื่อย ๆ หาความรู้ หาประสบการณ์ และได้กำลังใจจากคนรอบข้าง ไม่ว่าจะเป็นแม่ เมีย ลูก ลูกน้องและเจ้านาย ผมจึงเติบโตมาได้จนถึงขนาดนี้ ผมมีความตั้งใจ จริงใจกับทุกคน การทำงานอยู่กับคนหมู่มาก มีปัญหาเยอะ เราก็ต้องพยายามสร้างความเข้าใจ ทำอะไรต้องยึดหลักเกณฑ์ บางครั้งก็มีการต่อต้านบ้าง หลัง ๆ เรียกมาคุย เขาก็เข้าใจ ฝ่ายการเดินรถส่วนที่ผมดูแล ผมก็ต้องลงไปหา ไปพบผู้ใต้บังคับบัญชา เสาร์-อาทิตย์ต้องไปตรวจงาน สร้างความเข้าใจกับลูกน้อง ผมก็รับนโยบายจากผู้บังคับบัญชามาอีกที อาจจะมีลูกน้องคิดว่าลำเอียง แต่ก็ทำตามหลักเกณฑ์ ผู้บังคับบัญชาก็ดีมีเมตตาทุกฝ่าย พวกเราถือว่าเก่งนะครับ ผู้ว่าก็เก่งมาก เราบริหารของเก่า รถจักรเก่า พนักงานอัตราก็ขาด ตอนนี้รถไฟทำโครงสร้างใหม่ ถ้าโครงสร้างออกมาได้ อาจจะปรับ จะได้รับพนักงานได้บ้าง อาจจะปรับตำแหน่งที่ไม่จำเป็นก็ต้องปรับไป รับตำแหน่งสำคัญ มีพนักงานขับรถ นายสถานีขาดเยอะ พนักงานขบวนรถ คนคุมประแจก็ขาด ปัญหาเร่งด่วน เร่งสร้างทางคู่ ซื้อรถจักร พนักงานไม่เพียงพอ สินค้ามีมากแต่เราไม่มีปัญญาเพราะติดขัดเรื่องหัวรถจักร ค่าโดยสารเราก็ปรับไม่ได้ อยากจะฝากถึงผู้ใต้บังคับบัญชาทุกท่านที่ทำงานกับการรถไฟ ขอให้ความร่วมมือ ร่วมใจกัน ตอนนี้อยู่ในภาวะที่วิกฤตมากต้องช่วยกัน ต้องเสียสละ แล้วการรถไฟจะไปรอด ถ้าพวกท่านไม่ช่วยกันคงจะแย่แล้ว โครงการที่จะเกิดขึ้นในอีก 4-5 ปีข้างหน้านี้ ของการรถไฟแห่งประเทศไทย จะมีให้เห็นอย่างต่อเนื่อง จะมีโครงการสร้างทางรถไฟรางคู่ ทางใต้ นครปฐม-หัวหิน, ประจวบคิรีขันธ์-สุราษฎร์ธานี ทางเหนือ ลพบุรี-พิษณุโลก ทางตะวันออกเฉียงเหนือ แก่งคอย-ขอนแก่น ซื้อหัวรถจักรใหม่ ตู้ใหม่ นับถึงวันนี้...วันที่ สมหมาย ทับเวช รองผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทย สู้กับบททดสอบที่ถือว่าเป็นอุปสรรคในการทำงานแต่...ก็พิสูจน์ได้ว่าความก้าวหน้า นั่นคือเป้าหมายที่แท้จริง
ประวัติ ชื่อ สมหมาย ทับเวช การศึกษา จบมัธยมที่โรงเรียนพุทธนิคม ไชยา สุราษฎร์ธานี วิศวกรรมรถไฟ รุ่นที่ 27 ตำแหน่ง ผู้อำนวยการฝ่ายการเดินรถ รองผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทย
แนวทางการดำเนินงาน 1.เข้าใจปัญหา และทำให้เป็นเรื่องสนุกที่จะผ่านพ้นกับอุปสรรค 2.ทำงานเป็นทีมและคัดเลือกทีมงานที่ดี 3.ความจริงใจต่อผู้ร่วมงาน 4.มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี และมีคุณธรรม 5.มีเป้าหมายในการปฏิบัติงาน 6.เป็นผู้มองการณ์ไกลอยู่เสมอ
ความสำเร็จ 5 ประการ 1.แม่ดี 2.ภริยาดี 3.ลูกดี 4.ลูกน้องดี 5.เจ้านายดี |