หนังสือพิมพ์ นิตยสาร วารสารสำหรับสังคมคนทำงานที่ดีที่สุด
สนใจติตต่อลงโฆษณา โทร. 094-554-6226
อีเมลล์ : workingsociety@hotmail.com

Main Menu


 

สถิติเว็บไซต์

 สถิติวันนี้ 35 คน
 สถิติเมื่อวาน 34 คน
 สถิติเดือนนี้
สถิติปีนี้
สถิติทั้งหมด
398 คน
9675 คน
246345 คน
เริ่มเมื่อ 2010-06-28

 
 
 
 
  แข่งขันเรือยาวประเพณีเทศบาลตำบลโพสังโฆ ประจำปี ๒๕๕๔
 
นายวัฒนพงษ์ โพธิ์นิ่มแดง ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานลพบุรี กล่าวว่า จังหวัดสิงห์บุรี นับเป็นจังหวัดหนึ่งที่มีศักยภาพด้านการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม และประเพณี โดยเฉพาะการแข่งขันเรือยาวประเพณี วัดกลางท่าข้าม เป็นหนึ่งประเพณีเก่าแก่ที่สืบทอดกันมากว่าร้อยปี โดยถือเอาช่วงเทศกาลกฐิน ตั้งแต่ ๑ ค่ำ เดือน ๑๑ ถึงกลางเดือน ๑๒ ซึ่งเป็นฤดูน้ำหลากในช่วงเทศกาลออกพรรษา ทางวัดกลางท่าข้ามได้จัดให้มีการแข่งขันเรือยาวประเพณีเรื่อยมา จนกระทั้ง พ.ศ. ๒๕๓๐ ด้วยสภาพเศรษฐกิจบีบรัด การแข่งขันเรือยาวประเพณีวัดกลางท่าข้ามได้ขาดไปกว่าสิบปีและกลับมาฟื้นฟูอีกครั้ง ในปี พ.ศ. ๒๕๔๔ จนถึงปัจจุบัน ซึ่งการจัดงานแข่งขันเรือยาวประเพณี เทศบาลตำบลโพสังโฆ ประจำปี ๒๕๕๔  ชิงถ้วยพระราชทานในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี   โดยทางอำเภอค่ายบางระจัน ร่วมกับเทศบาลตำบลโพสังโฆ จัดขึ้นเพื่อเป็นการฟื้นฟูและอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมอันดีงามของท้องถิ่น เสริมสร้างความสามัคคีในหมู่คณะ เป็นการพัฒนาสภาพเศรษฐกิจให้กับชุมชนในถ้องถิ่น ตลอดจนเป็นการประชาสัมพันธ์และส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดสิงห์บุรีให้เป็นที่รู้จักเพิ่มมากยิ่งขึ้น 
 
โดยการแข่งขันเรือยาวประเพณี เทศบาลตำบลโพสังโฆ ประจำปี ๒๕๕๔ ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ครั้งนี้ มีกิจกรรมที่น่าสนใจมากมาย อาทิ การแข่งขันเรือยาว ๔ ประเภท คือ เรือยาวใหญ่ , เรือยาวกลาง , เรือยาวเล็ก และเรือยาวจิ๋ว โดยแต่ละประเภทมีเรือยาวชื่อดังจากหลายจังหวัดเข้าร่วมแข่งขันมากมาย และช่วงเวลา ๒๐.๐๐ น. โดยประมาณ ชมการแสดงแสง เสียง สื่อผสม ซึ่งเป็นการแสดงที่ยิ่งใหญ่สวยงามตระการตา ที่มีนักแสดงร่วมกว่า ๔๐๐ ชีวิต โดยทุกท่านสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เทศบาลตำบลโพสังโฆ อ.ค่ายบางระจัน จ.สิงห์บุรี โทร. ๐๓๖ – ๕๓๕๕๐๙ และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานลพบุรี บริเวณศาลากลางจังหวัดลพบุรี ถ.นารายณ์มหาราช อ.เมือง จ.ลพบุรี โทร. ๐๓๖ – ๗๗๐๐๙๖ – ๗ หรือ http://www.tat7.com/
 
 

 
 
อาชีวะนครศรีธรรมราช คว้าสุดยอดนักออกแบบหน้าใหม่
 
“ไชน่าเวิลด์ ดีไซน์ คอนเทส 2011”
 
 

                            

 
                            ศูนย์การค้า ไชน่าเวิลด์ วังบูรพา จับมือกับ สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา และนิตยสารกุลสตรี เปิดเวทีประกวด สร้าง Young Designer ประดับวงการแฟชั่น ในระดับปวช.และปวส. กับโครงการ China World Fashion Design Contest 2011 คอนเซ็ปต์ “My World, My Inspire” เด็กอาชีวะทั้ง 10 ทีมที่ผ่านเข้ารอบสุดท้าย ต่างนำผลงานที่สร้างสรรค์และตัดเย็บจริง ใช้ผ้าคุณภาพสูงและวัตถุดิบชั้นดี จากร้านค้าต่างๆ ภายในไชน่าเวิลด์ วังบูรพา ขึ้นโชว์บนเวที China World Fashion Design Contest 2011 ณ บริเวณ ชั้น 2 ของศูนย์การค้าไชน่าเวิลด์ วังบูรพา กองเชียร์ของแต่ละทีมต่างร่วมลุ้นกับโชว์ชุดท้ายว่า นางแบบสาวชื่อดัง เมย์ พิชญ์นาฎ สาขากร จะสวมใส่ชุดของทีมใดออกมาจากหลังเวที
             ผลปรากฏว่า นางแบบสาวคนสวย สวมชุด “The Architecture of Thailand สถาปัตยกรรมไทย” ผลงานจากทีม วิทยาลัยาชีวศึกษานครศรีธรรมราช แรงบันดาลใจได้รับอิทธิพลมาจาก อารยธรรมและสถาปัตยกรรมไทย สมาชิกในทีม ประกอบไปด้วย
             ๑.นายภูสิทธิ์ ใจดี ปวช.ชั้นปีที่ ๒
             ๒.น.ส.วนิดา สุขช่วย ปวช.ชั้นปีที่ ๒
             ๓. น.ส.เทพรัตน์ ธรรมรัตน์ ปวช.ชั้นปีที่ ๒
                ทีมที่ชะนเลิศได้รับรางวัลที่ ๑ จะได้รับรางวัลเงินสดสนับสนุนการศึกษา พร้อมด้วยตั๋วเครื่องบิน ไป-กลับ กรุงเทพฯ – ฮ่องกง เพื่อเปิดโลกทัศน์ดูงานแฟชั่นที่ต่างแดน มูลค่ารวมกว่า 176,500 บาท และผลงานดังกล่าว ยังได้รับการต่อยอดเผยแพร่ต่อสาธารณะ อาทิ จัดตั้งโชว์ผลงานการออกแบบ ภายในศูนย์การค้าไชน่าเวิลด์ วังบูรพา ตั้งแต่วันที่ ๑-๓๑ สิงหาคม ๒๕๕๔ ณ บริเวณ ชั้น 2 ของศูนย์การค้าไชน่าเวิลด์ วังบูรพา
นายธนภณ ตังคณานันท์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้บริหารศูนย์การค้าไชน่าเวิลด์ วังบูรพา กล่าวว่า “ผลงานทั้ง ๑๐ ชี้น ถือว่าดีมากเพราะแม้จะเป็นแค่นักศึกษาในระดับ ปวช. ปวส. แต่การออกแบบแปลกใหม่และน่าสนใจ เชื่อมั่นว่าวงการแฟชั่นเมืองไทยกำลังจะมีดีไซเนอร์ช้างเผือกเกิดขึ้นอย่างแน่นอน เป็นครั้งแรกที่ศูนย์การค้าไซน่าเวิลด์สนับสนุนกิจกกรรมประเภทนี้ แต่ผลตอบรับดีมาก อยากให้เวทีการประกวดแห่งนี้ เป็นอีกหนทางหนึ่งในการสร้างฝันให้เยาวชนไทย ได้ฝึกฝนฝีมือและเรียนรู้ หาประสบการณ์ใหม่ๆ เพื่อสร้างฝันให้เป็นจริง”
 ด้าน ดร.ศศิธร พิชัยชาญณรงค์ เลขาธิการคณะกรรมการอาชีวศึกษา กล่าว่า “การประกวดออกแบบแฟชั่นเวที China World Fashion Design Contest 2011 จำกัดเฉพาะนักศึกษาระดับ ปวช. และปวส. ในสังกัด ไชน่าเวิลด์ ที่มองเห็นศักยภาพของเศูนย์การค้าไชน่าเวิลด์เด็กนักศึกษาในสายอาชีพ และกิจกรรมนี้ยังสร้างความตื่นตัวให้เด็กๆ ได้รู้จักไขว่คว้าโอกาสให้ตัวเอง เพื่อก้าวเดินไปยังเป้าหมายทางอาชีพที่ใฝ่ฝัน เป็นบททดสอบความรู้ความสามารถจากตำรา ในห้องเรียน ว่าจะสามารถนำไปใช้ สร้างผลงานได้จริงๆ หรือไม่ ซึ่งทาง สอศ. ภูมิใจมากที่มีผลงานส่งเข้าประกวดมาถึง ๕๓ ผลงาน จาก ๔๓ ทีม ๒๐ วิทยาลัยทัวประเทศเลยทีเดียว”
สำหรับรางวัลที่สอง ได้ทุนการศึกษา ๑๙,๐๐๐ บาท และ GIFT VOUCHER จากร้านผ้าในศูนย์การค้าไชน่าเวิลด์ ๑,๕๐๐ บาท ได้แก่ ผลงานชุด “คุณค่าอารยธรรม” ผลงานจากทีม AFTER CHOCK วิทยาลัยอาชีวศึกษาเชียงราย แรงบันดาลใจ มาจากผ้าปักลายชาวเขาที่มีเอกลักษณ์และรูปแบบเฉพาะตัว
รางวัลที่สาม ได้รับทุนการศึกษา ๑๔,๐๐๐ บาท และ GIFT VOUCHER จากร้านผ้าในศูนย์การค้าไชน่าเวิลด์ ๑,๕๐๐ บาท ได้แก่ ผลงานชุด “Modern” ผลงานจากทีม วิทยาลัยอาชีวศึกษาเชียงใหม่ แรงบันดาลใจ มาจากความสวยงามของโอเปร่าเฮ้าส์ ศึ่งเป็นการออกแบบอาคารที่มีมิติ ซึ่งได้นำการออกแบบตึกมาใช้ในการออกแบบชุด และออกแบบลายกระโปรง
ส่วนรางวัล Popular Vote ได้รับทุนการศึกษา ๘,๐๐๐ บาท และ GIFT VOUCHER จากร้านผ้าในศูนย์การค้าไชน่าเวิลด์ ๑,๕๐๐ บาท ได้แก่ ผลงานชุด “Eco-Friendly Fashoin” ผลงานจากทีม วิทยาลัยอาชีวะนครปฐม แรงบันดาลใจ คือ กลิ่นอายของธรรมชาติ โดยเฉพาะการเลือกใช้วัสดุที่ผลิตด้วยเส้นใยธรรมชาติ และทีที่ไม่ได้รางวัล จะได้รับเงินสนับสนุนและ  GIFT VOUCHER จากร้านค้าในศูนย์การค้าไชน่าเวิลด์ อีกด้วย
 
 
 


การแสดงนาฏศิลป์และดนตรีของโรงละครแห่งชาติ
 
ปฏิทินการแสดงนาฏศิลป์และดนตรี ปี ๒๕๕๔
 
ณ โรงละครแห่งชาติภาคตะวันตก จังหวัดสุพรรณบุรี
    วันเสาร์ที่ ๓ ก.ย. ๕๔ เวลา ๑๔.๐๐ น. การแสดงรายการศรีสุขนาฏกรรม
    วันเสาร์ที่ ๑๐ ก.ย. ๕๔ เวลา ๑๔.๐๐ น. การแสดงรายการนาฏยสังคีตโขน เรื่องรามเกียรติ์
    ชุดสร้างกรุงลงกา-ขับพิเภก
    วันเสาร์ที่ ๑๗ ก.ย. ๕๔ เวลา ๑๔.๐๐ น. การแสดงรายการเพื่อผู้มีดนตรีการ
 
ณ โรงละครแห่งชาติภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดนครราชสีมา
    วันอาทิตย์ที่ ๒๕ ก.ย. ๕๔ เวลา ๑๓.๓๐ น. การแสดงรายการเพื่อผู้มีดนตรีการ
 
เดือนตุลาคม ๒๕๕๔
ณ โรงละครแห่งชาติ กรุงเทพฯ

    วันอาทิตย์ ๒ ต.ค. ๕๔ เวลา ๑๔.๐๐ น. การแสดงรายการนาฏยสังคีตโขน เรื่องรามเกียรติ์
    ชุดสุกสารปลอมพล-นางลอย
    วันศุกร์ที่ ๗ ต.ค. ๕๔ เวลา ๑๗.๓๐ น. การแสดงรายการ ๑๐ ทศวรรษนาฏยสังคีต
    วันอาทิตย์ที่ ๙ ต.ค. ๕๔ เวลา ๑๔.๐๐ น. การแสดงรายการนาฏยสังคีตโขน เรื่องรามเกียรติ์
    ชุดสุกสารปลอมพล-นางลอย
    วันที่ศุกร์ที่ ๑๔ ต.ค. ๕๔ เวลา ๑๗.๐๐ น. การแสดงรายการดนตรีไทยไร้รสหรือ
    วันศุกร์ที่ ๒๘ ต.ค. ๕๔ เวลา ๑๗.๐๐น. การแสดงรายการศรีสุขนาฏกรรม
 
ณ โรงละครแห่งชาติภาคตะวันตก จังหวัดสุพรรณบุรี
    วันเสาร์ที่  ๑ ต.ค. ๕๔ เวลา ๑๔.๐๐ น. การแสดงรายการศรีสุขนาฏกรรม
    วันเสาร์ที่ ๘ ต.ค. ๕๔ เวลา ๑๔.๐๐ น. การแสดงรายการนาฏยสังคีตโขน เรื่องรามเกียรติ์
    ชุดสุกสารปลอมพล-นางลอย
    วันเสาร์ที่ ๑๕ ต.ค. ๕๔ เวลา ๑๔.๐๐ น. การแสดงรายการเพื่อผู้มีดนตรีการ
 
ณ โรงละครแห่งชาติภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดนครราชสีมา
    วันอาทิตย์ที่ ๒๓ ต.ค. ๕๔ เวลา ๑๓.๓๐ น. งดการแสดงเนื่องในวันปิยมหาราช
 
เดือนพฤศจิกายน ๒๕๕๔
    วันศุกร์ที่ ๔ พ.ย. ๕๔ เวลา ๑๗.๓๐ น. การแสดงรายการ ๑๐ ทศวรรษนาฏยสังคีต
    วันอาทิตย์ที่ ๖ พ.ย. ๕๔ เวลา ๑๔.๐๐ น. การแสดงรายการนาฏยสังคีตโขน เรื่องรามเกียรติ์
    ชุดสุกสารปลอมพล-นางลอย
    วันที่ศุกร์ที่ ๑๑ พ.ย. ๕๔ เวลา ๑๗.๓๐ น. การแสดงรายการศิลปากรคอนเสิร์ต
    วันศุกร์ที่ ๑๘ พ.ย. ๕๔ เวลา ๑๗.๐๐น. การแสดงรายการดนตรีไทยไร้รสหรือ
    วันศุกร์ที่ ๒๕ พ.ย. ๕๔ เวลา ๑๗.๐๐น. การแสดงรายการศรีสุขนาฏกรรม
ณ โรงละครแห่งชาติภาคตะวันตก จังหวัดสุพรรณบุรี
    วันเสาร์ที่  ๕ พ.ย. ๕๔ เวลา ๑๔.๐๐ น. การแสดงรายการศรีสุขนาฏกรรม
    วันเสาร์ที่ ๑๒ พ.ย. ๕๔ เวลา ๑๔.๐๐ น. การแสดงรายการนาฏยสังคีตโขน เรื่องรามเกียรติ์
    ชุดสุกสารปลอมพล-นางลอย
    วันเสาร์ที่ ๑๙ พ.ย. ๕๔ เวลา ๑๔.๐๐ น. การแสดงรายการเพื่อผู้มีดนตรีการ
 
ณ โรงละครแห่งชาติภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดนครราชสีมา
    วันอาทิตย์ที่ ๒๗ พ.ย. ๕๔ เวลา ๑๓.๓๐ น. การแสดงรายการศรีสุขนาฏกรรม
 

 
กทม.จับมือ ทีซีซีแลนด์ สนับสนุนโครงการเอคอม บูธแคมป์ ครั้งแรกในไทย
 
บริษัทเอคอมร่วมกับกรุงเทพมหานครและทีซีซีแลนด์ จัดโครงการเอคอม บูธแคมป์ (AECOM Boot Camp ) นับเป็นครั้งแรกที่จัดขึ้นในประเทศไทย โดยเชิญนักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญที่มีความคิดสร้างสรรค์จากนานาประเทศได้ร่วมศึกษาความสัมพันธ์ของชุมชนเมืองที่มีต่อแม่น้ำเจ้าพระยา ออกแบบ และวิเคราะห์ความเป็นไปได้ในการพัฒนา ภายใต้แนวคิด “Creative Chao Phraya” เพื่อส่งเสริมให้กรุงเทพเป็นเมืองที่น่าสนใจในเรื่องการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม สอดคล้องกับแนวคิด “Creative Thailand” ของรัฐบาลไทย
หม่อมราชวงศ์ สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า แม่น้ำเจ้าพระยามีบทบาทสำคัญกับคนไทยมาหลายยุคหลายสมัย เป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาประเทศจนถึงปัจจุบัน และยังมีแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมสำคัญมากมายตามลำน้ำ อาทิ มัสยิด โบสถ์ของศาสนาคริสต์ วัดไทย และบ้านไทยโบราณ อย่างไรก็ตาม ยังมีพื้นที่ว่างริมแม่น้ำเจ้าพระยา ที่รอการพัฒนาอย่างสร้างสรรค์ เพื่อทำให้กรุงเทพฯงดงามยิ่งๆขึ้นไป “ผมเชื่อว่าหากเราวางแผนและออกแบบให้ดี กรุงเทพมหานครของเรา โดยเฉพาะพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา จะกลายเป็นสัญลักษณ์แห่งการสร้างสรรค์อันงดงามทำให้กรุงเทพฯเป็นหนึ่งในเมืองที่เที่ยวและน่าอยู่ที่สุดในโลกได้ การพัฒนาโครงการดังกล่าว ต้องได้รับการสนับสนุนจากทุกภาคส่วน โดยเฉพาะภาคเอกชน การที่บริษัทเอคอม และบริษัท ทีซีซี แลนด์ เข้ามามีส่วนร่วมในโครงการเอคอม บูธแคมป์ ครั้งนี้ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี”
นายดิกสัน โล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารแห่งเอเชียของบริษัทเอคอมกล่าว“เราทำโครงการบูธแคมพ์ โดยให้มีเวิร์คช็อปเพื่อให้ผู้เข้าร่วมโครงการฯ ได้เข้าศึกษาในพื้นที่จริงที่ไม่ซ้ำกัน รวบรวมข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญในหลากหลายวิชาชีพ และนำมาวิเคราะห์อย่างกว้างขวาง โดยมุ่งเน้นการนำเสนอนวัตกรรมและแนวทางสร้างสรรค์ในการแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อนและท้าทาย  ทุกๆปีที่ผ่านมาผู้เข้าร่วมโครงการ บูธแคมป์ ของเอคอม ได้แสดงให้เห็นถึงแนวคิดใหม่ๆในการพัฒนา แต่ละทีมทำงานอย่างแข็งขันและนำเสนอผลงานได้อย่างน่าประทับใจ ไม่ว่าเขาเหล่านั้นจะได้รางวัลหรือไม่ สิ่งที่ได้จากการเข้าร่วมกิจกรรมถือเป็นประสบการณ์ชีวิต”
AECOM BOOTCAMP คือ โครงการประจำปี ที่จะมีการฝึกอบรมเป็นไปอย่างเข้มข้นเป็นระยะเวลาหนึ่งสัปดาห์ ซึ่งถือเป็นประสบการณ์ครั้งสำคัญที่เปิดโอกาสให้ผู้เชี่ยวชาญทางวิชาชีพรุ่นใหม่ นิสิต นักศึกษาที่ได้รับเลือกมาทำงานร่วมกันผ่านการแลกเปลี่ยนความรู้ทางวิชาการในหลายสาขา โดยวิเคราะห์และบ่งชี้ถึงปัญหาต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นในการสร้างสภาพแวดล้อม และนำแนวความคิดที่ได้ไปเสนอแก่ลูกค้าและผู้ถือหุ้นผ่านโครงการที่จะเกิดขึ้นจริง
นายปณต สิริวัฒนภักดี รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีซีซี แลนด์ จำกัด ชี้แจงถึงเหตุผลในการสนับสนุนโครงการครั้งนี้ว่า แม้บริษัทเอคอม ซึ่งเป็นบริษัทผู้ออกแบบขนาดใหญ่ได้จัดทำโครงการนี้ต่อเนื่องกันมาหลายปีแล้ว แต่ก็ยังไม่เคยจัดในเมืองไทย ทีซีซีแลนด์เห็นว่าเป็นโอกาสดีที่จะมีส่วนส่งเสริมผู้ที่มีความสามารถ ได้เรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญในหลากหลายสาขาจากบริษัท เอคอม เช่น สถาปนิก ภูมิสถาปนิก ผู้เชี่ยวชาญด้านสิ่งแวดล้อม วิศวกร และนักวางผังเมือง ร่วมด้วยตัวแทนจากกลุ่มบริษัท ทีซีซีฯ โครงการนี้เน้นให้นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยชั้นนำ และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการพัฒนาเมืองและชุมชน ได้ร่วมกันทำงานบนพื้นที่จริงริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา และผลการศึกษาที่มุ่งเน้นการนำไปปฏิบัติได้จริงที่ได้จากเวิร์คช็อปทั้งสัปดาห์ ก็จะนำเสนอเป็นแนวคิดให้กับกรุงเทพมหานคร เพื่อการพัฒนาต่อไปในอนาคต


 
บิ๊กคาเมร่า จับมือ ฟูจิฟิล์ม ทุ่ม 15 ล้านบาทเซ็นสัญญาลงเครื่อง โฟโต้บุ๊ค 35 สาขา 
 
บริษัท บิ๊กคาเมร่า จำกัด ผู้นำธุรกิจด้านการจัดจำหน่ายกล้องดิจิตอลและอุปกรณ์ถ่ายภาพ ทุ่มงบกว่า 15 ล้านบาท เซ็นสัญญาติดตั้งเครื่องผลิตโฟโต้บุ๊ค   กับบริษัท ฟูจิฟิล์ม (ประเทศไทย) จำกัด   จำนวน   35 เครื่อง   เพื่อเสริมสร้างการบริการทำสมุดภาพโฟโต้บุ๊ค   ภายใต้แบรนด์   BIG Image Plus   กับคอนเซ็ปท์   “ รอรับได้เลย ”   เพื่อพัฒนาศักยภาพของการเป็นผู้นำด้านการจัดจำหน่ายกล้องดิจิตอล   และอุปกรณ์ถ่ายภาพของเมืองไทย    ที่มีการให้บริการแบบครบวงจร พร้อมเตรียมทำการตลาดเจาะกลุ่มเป้าหมาย 
นายพงษ์พันธ์ อโณทัยไพบูลย์ ผู้จัดการฝ่ายขาย บริษัท ฟูจิฟิล์ม (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า
“ ปัจจุบันการบริโภคฟิล์มถ่ายภาพลดลงอย่างมาก   เนื่องจากตลอดหลายปีที่ผ่านมาการถ่ายภาพถูกแทนที่ด้วยกล้องดิจิตอล แต่อย่างไรก็ตาม ตลอดช่วงที่ผ่านมา การอัดภาพในประเทศไทย ยังคงมีการบริโภคที่สูง และการขยายตัวของดิจิตอลมินิแล็บยังเพิ่มขึ้นตลอดเวลา ส่วนการเก็บภาพในสื่อดิจิตอล และการพิมพ์รูปที่บ้าน (Home Printer) ยังมีสัดส่วนที่ไม่มากนัก ซึ่งการอัดภาพผ่านร้านมินิแล็บยังคงได้รับความนิยมเป็นหลัก   สำหรับตลาดการบริโภคกระดาษอัดภาพสีในประเทศไทยอยู่ที่ปีละ 11 ล้านตารางเมตร เมื่อเทียบกับฟิล์มถ่ายภาพจะเท่ากับฟิล์มประมาณ 20 ล้านม้วน ซึ่งจำนวนของภาพที่อัดเมื่อเทียบกับปริมาณภาพที่ถูกถ่ายโดยกล้องดิจิตอลถือว่าน้อยมาก และมองว่าพฤติกรรมการอัดภาพสีโดยทั่วไปของคนไทยยังไม่เปลี่ยนจากเดิมมากนัก ฟูจิฟิล์มจึงมองเห็นโอกาสทางการตลาดอีกมาก
สำหรับในปีนี้ ฟูจิฟิล์มมีเป้าหมายที่ท้าทายโดยต้องการเพิ่มสัดส่วนทางการตลาดของการอัดภาพโฟโต้บุ๊ค โดยโฟโต้บุ๊ค เริ่มกำเนิดในประเทศญี่ปุ่นและแพร่หลายไปยังอเมริกา ราว 3-5 ปีที่ผ่านมา การทำโฟโต้บุ๊ค คือ การนำเอาภาพที่ถ่ายมาจัดรูปเล่มให้เป็นเรื่องราวในรูปแบบที่ต้องการ แล้วอัดภาพออกมาเป็นหนังสือภาพ นอกจากนั้น ยังให้คุณค่าทางอารมณ์ คือ การแบ่งปันความสุข ความทรงจำ จากการถ่ายภาพในรูปแบบใหม่โดยเป็นหนังสือภาพที่ถูกออกแบบเรื่องราวและรูปแบบตามที่ต้องการ
นายชิตชัย   เธียรกาญจนวงศ์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท บิ๊กคาเมร่า จำกัด กล่าวว่า “ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา บิ๊กคาเมร่า คือผู้นำในธุรกิจการจัดจำหน่ายกล้อง และอุปกรณ์ถ่ายภาพ ที่มีแบรนด์สินค้าให้เลือกมากที่สุดในประเทศไทย ด้วยการให้บริการด้านการถ่ายภาพแบบครบวงจร อันได้แก่ BIG Fix บริการรับซ่อมกล้องทุกแบรนด์ ด้วยคุณภาพระดับแบรนด์ผู้ผลิตชั้นนำ , BIG Pro Care Service   บริการขยายระยะเวลารับประกันกล้องเป็น 2 ปี , ศูนย์บริการล้างอัดภาพสีด้วยระบบดิจิตอล FDI Station   และรวมถึงบริการล่าสุดกับ BIG Image Plus   บริการทำสมุดภาพโฟโต้บุ๊ค ด้วยระบบดิจิตอลคุณภาพสูง   ซึ่งความร่วมมือกับฟูจิฟิล์มในครั้งนี้ ทำให้บิ๊กคาเมร่า สามารถผลิต โฟโต้บุ๊ค ได้สะดวกและรวดเร็วขึ้นกว่าเดิมมาก   เป็นการพัฒนาขีดความสามารถในการผลิต   ให้มีความสะดวก   รวดเร็ว และเกิดประสิทธิภาพสูงสุดแก่ผู้มารับบริการ    ถือเป็นอีกก้าวสำคัญของบิ๊กคาเมร่า    ในเรื่องของการพัฒนา การให้บริการแบบ One-stop Services   โดยการนำเทคโนโลยีการพิมพ์ที่ทันสมัยมาเสริมสร้าง ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ”
สำหรับการติดตั้งเครื่องผลิตโฟโต้บุ๊คที่หน้าร้านบิ๊กคาเมร่านั้น จะสามารถช่วยพัฒนาพื้นที่การให้บริการของ BIG Image Plus ให้ครอบคลุมมากขึ้นและยังช่วยประหยัดเวลาในการผลิต เนื่องจากสามารถผลิตที่หน้าร้านได้เลยทันที ภายใต้ Concept “ รอรับได้เลย ! ” นอกจากนี้ บิ๊กคาเมร่ายังได้จัดเตรียมสื่อโฆษณาลงในสื่อต่างๆ เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภค และจะมีการจัดกิจกรรม Roadshow เพื่อสนับสนุนการให้บริการของบิ๊กคาเมร่าอีกด้วย ”
คุณชิตชัยกล่าวเพิ่มเติมในตอนท้ายว่า ปัจจุบัน BIG Camera ยังคงรักษามาตรฐานการเป็นผู้นำด้านการจัดจำหน่ายกล้องดิจิตอล และอุปกรณ์ถ่ายภาพของเมืองไทย ด้วยสาขาที่พร้อมให้บริการกว่า 170 สาขาทั่วประเทศ   กับสินค้าที่มีให้เลือกมากมายหลากหลาย ครบทุกความต้องการ พร้อมด้วยกิจกรรมต่างๆ มากมาย ที่เอาใจผู้รักการถ่ายภาพ อาทิ กิจกรรม BIG Digital Day   การอบรมการใช้งานกล้องเบื้องต้น BIG Photo Trip กิจกรรมถ่ายภาพกับนางแบบชั้นนำแบบ Exclusive รวมถึงการประกวดภาพถ่ายและกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งบิ๊กคาเมร่าจะยังคงมุ่งพัฒนาการให้บริการ เพื่อความพึงพอใจของลูกค้าต่อไป


 
โครงการนาฏยศาลา เพาะต้นกล้างานศิลป์ไทย
 
“โครงการนาฏยศาลา เพาะต้นกล้างานศิลป์ไทย” เกิดจากความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (ประสานมิตร) นำโดย ศ.ดร.วิรุณ ตั้งเจริญ ท่านอธิการบดี มีวิสัยทัศน์การศึกษาที่กว้างไกล และนาฏยศาลาหุ่นละครเล็ก (โจหลุ่ยส์) ภายใต้การนำของคุณพิสูตร และคุณสุรินทร์ ยังเขียวสด ทายาทครูสาคร ยังเขียวสด ศิลปินแห่งชาติ และผู้สืบทอดหุ่นละครเล็กมรดกศิลป์ไทย โดยมีปณิธาน และเป้าหมายร่วมกันในการนำความรู้เกี่ยวกับศิลปะการแสดงหุ่นละคร ในฐานะภูมิปัญญาไทยไปสู่การเผยแพร่และสืบสาน ตลอดจนทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรมของชาติ เพื่อเป็นรากฐานแก่สังคมไทยให้ก้าวไปอย่างสร้างสรรค์และมั่นคงต่อไปในอนาคต โดยโครงการนี้ สืบเนื่องมาจากโครงการ “สืบสานตำนานศิลป์ อนุรักษ์มรดกของแผ่นดิน ถ่ายทอดจิตวิญญาณ” ซึ่งมีจุดประสงค์เพื่อการอนุรักษ์ เผยแพร่และถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับศิลปะการแสดงหุ่นละครเล็กไปสู่คนรุ่นใหม่จนเกิดการสืบสานอย่างต่อเนื่องสืบไป
ภูมิปัญญาแห่งศิลปวัฒนธรรมไทยที่วิจิตรบรรจงและหลากหลาย ถูกหลอมรวมไว้ภายใต้ลีลาการเชิดหุ่นละครเล็กอันมีชีวิตชีวา ทั้งวิจิตรศิลป์ (Fine Arts) และประยุกต์ศิลป์ (Applied Arts) องค์ความรู้ทางศิลปะหลากแขนงเหล่านี้ กำลังเดินก้าวไปสู่การถ่ายทอดความรู้ในระดับวิชาการ อันได้แก่ วรรณกรรม นาฏศิลป์ นาฏศิลป์ ประติมากรรม สถาปัตยกรรม หัตถศิลป์ มัณฑศิลป์ และการออกแบบสร้างสรรค์
รูปแบบของความร่วมมือในการดำเนินโครงการ “โครงการนาฏยศาลา เพาะต้นกล้างานศิลป์ไทย” แบ่งออกเป็น ๔ ส่วนดังนี้
๑โรงละครอโศกมนตรีนาฏยศาลา
                                หลังจากนาฏยศาลา หุ่นละครล็ก (โจหลุยส์) ห่างหายจากวิกไปกว่า ๓๖ สัปดาห์ โรงละครอโศกมนตรีนาฏยศาลา พร้อมแล้วที่จะเปิดโอกาสให้ศิลปะการแสดงหุ่นละครเล็ก มหรสพไทยเก่าแก่กว่า ๑๐๐ ปี กลับมาโลดแล่นอีกครั้งอย่างเต็มรูปแบบในโรงละคร ณ ชั้น ๔ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (ประสานมิตร) ๑๑๔ ซอยสุขุมวิท ๒๓ เขตวัฒนา กรุงเทพ ๑๐๑๑๐
๒. หอศิลป์อโศกมนตรีนาฏยศาลา
                พื้นที่สำหรับการจัดแสดงหุ่น เรื่องราว ประวัติความเป็นมา และผลงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับศิลปะการแสดงหุ่นละคร โดยนาฏยศาลา หุ่นละครเล็ก (โจหลุ่ยส์) เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ที่สนใจรักในมรดกหุ่นไทยได้เรียนรู้ และชื่นชมผลงานอย่างใกล้ชิด นอกจากนั้น ยังมีการจัดนิทรรศการหมุนเวียนเกี่ยวกับศิลปะการแสดงนานาชาติ เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ในระดับสากล 
๓. การเรียนการสอนในระดับบัณฑิตศึกษา
                องค์ความรู้ทางศิลปะหลากหลายแขนงในการแสดงหุ่นละครเล็ก ได้ถูกกลั่นกรองร้อยเรียงลงบรรจุในรายวิชาเลือกเสรี “ภูมิปัญญาไทยในศิลปะการแสดง” ภาควิชานาฏศิลป์ไทย คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ตั้งแต่ภาคการเรียนที่ ๑ พุทธศักราช ๒๕๔๕ เป็นแห่งแรก โดยเปิดการเรียนการสอนเป็น ๒ กลุ่ม สำหรับนักศึกษาที่มีพื้นฐานนาฏศิลป์ไทย และหุ่นละครเล็ก และสำหรับนักศึกษาทั่วไป ซึ่งไม่มีพื้นฐาน
๔. ศูนย์การเรียนรู้นาฏยศาลา หุ่นละครเล็ก (โจหลุ่ยส์)
                แห่งรวบรวมข้อมูล ความรู้ ประวัติ และเรื่องราวเกี่ยวกับการแสดงหุ่นละครเล็ก มรดกของแผ่นดิน ทั้งในรูปแบบ วิดิทัศน์ รูปภาพ หนังสือ บันทึก บทความ และบทวิจัย รวมถึงวิทยานิพนธ์ของนักศึกษาที่เคยทำการค้นคว้าเกี่ยวกับหุ่นละครเล็ก ถือได้ว่าเป็นห้องสมุดศิลปะการแสดงหุ่นละครเล็กที่แรกของประเทศไทย นอกจากนี้ ศูนย์การเรียนรู้นาฏยศาลาฯ ยังมีเจตจำนงในการตั้งชมรมหุ่นละครเล็กขึ้น เพื่อการถ่ายทอด และการสัมผัสถึงคุณค่าของมรดกทางวัฒนธรรมอย่างแท้จริง โดยเปิดการเรียนการสอนศิลปะการแสดงหุ่นละครเล็ก สำหรับบุคคลภายนอกทั่วไปที่มีใจรักในศิลปะคู่ชาตินี้
 
 
 
                                                                                                                                                                                

 


 

Copyright (c) 2006 by workingsociety.com